เปิดแนวคิด “Worthy Living” ออกแบบบ้านให้ดีต่อเรา ดีต่อโลก

แนวคิด “Worthy Living” เกิดจากการผ่านวิกฤตด้านโรคระบาดที่ส่งผลให้เราต้องปรับการใช้ชีวิต บ้านกลายเป็นทั้งที่ทำงาน พื้นที่สร้างรายได้

ออกแบบ แหล่งผลิตอาหารในครัวเรือน เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายจนเกิดพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่ การออกแบบบ้านจึงควรมีคุณค่าในหลายมิติ ที่ไม่ได้สร้างเพื่อตอบสนองตัวเราเองฝ่ายเดียวในงานงานบ้านและสวนแฟร์ 2022 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เดินเข้างานจะพบกับบ้านตัวอย่าง ที่ออกแบบโดย CASE Studio เอาแนวคิด “Worthy Living” มาใช้ทำให้ดีต่อผู้อยู่อาศัย และ ดีต่อโลกด้วยลักษณะการออกแบบบ้านตัวนี้ จะเห็นได้ว่าสัดส่วนของบ้านถูกแบ่งออกเป็นก้อนๆ ไม่รวมกันเป็นบ้านสี่เหลี่ยมหลังเดียว ลักษณะแบบนี้คือ แทงมวยสเต็ป2 ตัวบ้านออกแบบด้วยระบบโมดูลาร์ที่ใช้ระยะ 1.20 เมตรเป็นเกณฑ์ ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานของวัสดุส่วนใหญ่ในท้องตลาด ตัวบ้านก้อนหลักเริ่มต้นที่ขนาด 3.60 x 3.60 เมตร และสามารถขยายขนาดให้ยาวขึ้นได้ทีละ 1.20 ม. หรือจะเป็นการต่อกันสองก้อนกลายเป็นขนาด 3.60 x 7.20 เมตรก็ได้ ระบบโมดูลาร์ดีต่อโลก เพราะช่วยให้เหลือเศษวัสดุที่ตัดทิ้งน้อยลง และได้พื้นที่ที่คุ้มค่า ทั้งยังสามารถจัดวางการเชื่อมต่อบ้านกับชานได้ตามต้องการ มาดูกันว่าบ้านหลังนี้ออกแบบให้ดีต่อเรา และดีต่อโลกอย่างไรบ้าง

แนวคิด “Worthy Living

รองรับการใช้พลังงานสะอาด หลังคาออกแบบโครงสร้างให้รองรับการติดตั้งโซลาร์เซลล์ และสามารถจัดวางให่้อยู่ในทิศที่รับแดดได้ สำหรับผลิตพลังงานสะอาดใช้ภายในบ้านเองได้ หรือขายคืนให้แก่ภาครัฐหากมีปริมาณเหลือใช้ลดขยะ มีวัสดุเหลือทิ้งน้อย ตัวยูนิตบ้านเริ่มต้นที่ 2 ขนาดคือ 3.60×3.60 เมตร และขนาด 1.20×3.60 เมตร ซึ่งเป็นระบบโมดูลาร์ที่มาจากขนาดมาตรฐานของวัสดุก่อสร้างหลักที่เลือกใช้ คือ เมทัลชีตบุฉนวน และแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ การใช้วัสดุได้เต็มแผ่นโดยไม่ต้องตัดทิ้ง ทำให้เกิดขยะน้อยตามไปด้วยวัสดุสามารถนำกลับไปใช้ใหม่ได้ โครงสร้างบ้านหลังนี้ใช้เหล็กเป็นโครงสร้างหลัก ซึ่งเป็นวัสดุที่สามารถนำมาเข้ากระบวนการรีไซเคิลได้หากมีการรื้อถอนในอนาคต ทั้งยังสามารถถอดแล้วย้ายไปประกอบในพื้นที่ใหม่ได้